หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2555

~มาชำแหละทฤษฏีดาวกัน ตอนที่ 2 การดูแนวโน้มแบบที่ 2

แบบที่สองนี้เราจะดูแค่ราคาเปิดกับราคาปิดเท่านั้นครับ
บางคนอาจจะใช้ Line Chart ในการมองก็ได้ ซึ่งกราฟจะเป็นลักษณะเส้นเดียว
จะกระดิก ดุกดิกๆ จนกว่าจะจบรอบของ TF นั้นๆ
ลักษณะการมองก็เหมือนกับแบบที่ 1 เพียงแค่เราตัดการแกว่งของราคาออกไป
อย่างเช่น ถ้าเปรียบเทียบว่าเอาแบบ 1 กับ แบบ 2 มาหาค่าเฉลี่ยแต่ละตัว
ระหว่าง H-L กับ O-C 
ค่าเฉลี่ยที่ได้ก็จะต่างกัน อาจจะมีต่างกันนักแต่ที่ต่างกันแน่ๆคือ
การกระจายของราคาของ H-L จะกระจายสูงกว่ามาก
ส่งผลให้บางครั้งเราก็ไม่แน่ใจ ว่าจะดูอะไรเป็นหลักระหว่าง H-L หรือแบบ O-C ดี

มาดูรูปแบบ up trend ก่อน


จากที่เห็นเราก็จะเห็นการทำ ไฮที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ และ โล ที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ
แบบนี้เรียกว่า up trend
ส่วนที่เราเห็น โลเวอร์โล หรือ โลที่ต่ำกว่าอันก่อนหน้า อันนี้ยังไม่สามารถตัดสินใจได้
ว่ากลับตัวเป็นแนวโน้มขาลงแล้ว เหตุผลเพราะว่า ไม่มีการทำ LH หรือ
ไฮที่ต่ำลงมา ตามมาด้วยนั่นเอง 
หลายคนไม่เข้าใจทฤษฏีดาว พอเห็นนิวโลปั๊บ ก็จะคิดว่ากราฟจะลงต่อ
แต่ไม่ได้มาโฟกัสทฤษฏีดาวจริงๆ ว่าดาวพูดอะไรไว้บ้าง
บางคนถึงกับเลือกเล่นสั้นๆตามอินดิเคเตอร์
หรืออะไรก็ช่าง
 แล้วให้เหตุผลว่า the trend is't friend in forex .

มาลองดูขาลงกันว่าดูยังไง

ก็จะมีการทำ โลต่ำมาเรื่อยๆ 
และทำ ไฮต่ำมาเรื่อยๆ
แต่เราจะเห็นกรอบที่ผมเขียนว่า Side way zone 
ตรงจุดนี้ มีการแกว่งของราคาเปิดกับปิด ทำสูงต่ำ แต่ไม่มีการทำ นิวไฮ หรือ นิวโลเกิดขึ้น
ก็จะเรียกตรงนี้ว่าไซด์เวย์
แต่ถ้าเราลองลด TF ดู เราก็อาจจะเห็นการทำราคาเป็นเทรนเล็กๆ เกิดขึ้นบน TF ใหญ่ก็ได้
ซึ่งเราต้องให้ความสำคัญเองว่า
เราจะเล่น TF ไหน ณ วินาทีนี้ เรามองอะไรอยู่

ถึงแม้เราจะเข้าใจเรื่อง HH,HL,LL,LH ดีแล้ว
แต่สิ่งนึงที่ไม่อาจคาดการณ์ได้นั้นคือ
เราจะเลือกรูปแบบไหนเป็นเกณฑ์ว่าแบบ 1 หรือแบบ 2 ดีที่เราควรใช้เทรด

เช่น

(สีเหลืองคือ H-L ; สีเขียวคือ O-C)

นี่คือความแตกต่างระว่างการดูแนวโน้มสองอัน
ถ้าแบบ H-L การแกว่งจะเยอะ ทำให้มีความละเอียดมากขึ้นเมื่อเทียบกับ O-C
แต่เราก็บอกไม่ได้ว่า แบบนี้ดีกว่าแบบนี้แน่ๆ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น